วันเสาร์, เมษายน 20, 2567

กลุ่มประเทศ จี-๗ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องให้ทุกชาติป้องกัน หรือยุติ ส่งน้ำมันเครื่องบินเจ๊ทให้แก่รัฐบาลทหารพม่า

ต่อสถานการณ์รบรุนแรงในพม่าที่ #เมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด จ.ตาก ทำให้มชาวบ้านอพยพหนีภัยข้ามมาฝั่งไทย ๒๑๗ คนวันนี้ (๒๐ เมษา) รัฐมนตรีต่างประเทศไทยเขียนทวิตเตอร์สั้นๆ “ยืนยันครับว่าไทยมีความพร้อมปกป้องอธิปไตย...”

ลงท้ายยืนยันอีกว่าไทย “พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเสมอครับหากมีความจำเป็น” ฟังทะแม่งๆ อยู่นะ ในมิติแห่งหลักการสิทธิมนุษยชน ทำไมต้องรอให้ “จำเป็น” ทำไมไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแต่แรก (อย่างน้อยๆ ในคำพูด ก็ยังดี)

ในเมื่อมีแถลงการณ์ร่วมกลุ่มประเทศ จี-๗ เพิ่งออกมาเมื่อวาน (๑๙ เมษา) เรียกร้องให้ทุกชาติป้องกัน หรือยุติ “การส่งอาวุธ และยุทธปัจจัยที่ใช้แบบสองสถาน (dual-use materiel) รวมทั้งน้ำมันเครื่องบินเจ๊ท” เข้าไปในเมียนมาร์

สุณัย ผาสุข @sunaibkk ตัวแทนฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ประจำไทยปริวิตกว่า “แบบนี้งานจะเข้าบริษัทไทยที่มีรายงานว่าเป็นหนึ่งในผู้ขายน้ำมัน Jet A-1 ให้เมียนมามั้ย อนึ่ง กองทัพเมียนมาเอาเชื้อเพลิงอากาศยานพลเรือนไปใช้กับอากาศยานทหาร (เรียกว่า Dual Use)

ปานปรีย์ มหิทธานุกร ตระหนักในเรื่องนี้หรือเปล่า กลุ่มประเทศ G-7 ที่ออกแถลงการณ์ มีสมาชิกเป็น “ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ ได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา” เรียกร้องร่วมกับสหภาพยุโรป

การที่กองทัพอากาศไทยนำเครื่องบิน เอฟ-๑๖ ขึ้นบินลาดตระเวนตรวจตรามิให้เครื่องบินรบ หรือขีปณาวุธของกองทัพรัฐบาลทหารพม่าชล่าใจไล่ตีชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ชายแดน ทะลักเข้ามาในเขตไทยเหมือนเคยก็เหมาะควรดีอยู่

เพราะการรบที่มีการปะทะหนักอีกในครั้งนี้ เป็นความพยายามของฝ่ายเผด็จการทหารพม่าที่จะยึดคืนเมืองเมียวดีให้จงได้ แต่ “กองกำลัง #กะเหรี่ยง และพันธมิตรเปิดฉากโจมตีทหาร #เมียนมา ที่ถอยร่นจากค่าย ๒๗๕ มาตั้งฐานอยู่ที่เชิงสะพานมิตรภาพ ๒”

ข้อที่ควรห่วงเป็นการหนีข้ามแดนของฝ่ายมินอ่องหลาย มาขึ้นเครื่องบินของรัฐบาลพม่ารอรับอยู่ที่สนามบินแม่สอด เช่นที่เกิดขึ้นมาแล้วครั้งก่อนด้วยความอนุเคราะห์ของรัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฝ่ายกองทัพพม่าเท่านั้น

ครั้งนี้โจทย์ยากกว่า ถ้าไทยยังขืนปล่อยให้มีการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินเจ๊ท ช่วยรัฐบาลมินอ่องหลายอยู่อีก ไอ้ที่เศรษฐาอุตส่าห์ตระเวนเป็นเซลแมนไปทั่งโลกจะเสียเปล่านานาชาติจะมาร้องยี้เอาตอนนี้ เสียเปล่า แค่ได้เที่ยวฟรี

(https://twitter.com/sunaibkk/status/1781519146708275341, https://twitter.com/drparnpreeb/status/1781525394363183204, https://gov.uk/government/publications/g7-foreign-ministers-meeting-communiques-april-2024/ และ https://twitter.com/KhaosodEnglish/status/1781515679457570864) 

รายละเอียดหมายกำหนดงาน คืนสู่บ้านปรีดี : Faire revivre la maison de Pridi 17-18 พฤษภาคม 2024 บ้านอองโตนี ปารีส


Paramsam Pop
Thai students in Paris นักเรียนไทยในปารีส
2d
·
คืนสู่บ้านปรีดี : Faire revivre la maison de Pridi
สวัสดีครับ อย่างที่หลายๆท่านได้ติดตามข่าวจากไทย และได้สอบถามถึงข่าวที่คุณธนาธร ได้ทำการซื้อบ้านที่ อ.ปรีดี เคยได้อาศัยอยู่ตราบจนวันสุดท้ายของชีวิตที่เมือง Antony (ชานเมืองปารีสทางใต้) ต่อจากครอบครัวคนเวียดนาม
บ้านหลังนี้ มีความสำคัญมากเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคนไทย และ เคยเป็นที่พักพิง และ เป็นศูนย์รวมของ นศ. ไทยในฝรั่งเศสและยุโรป มาก่อน อีกทั้งยังเป็นที่ ที่บุคคลสำคัญหลายๆท่านเคยได้ผ่านไปพบกับ อ.ปรีดีที่บ้านหลังนี้
-------------------
หลายๆท่านสอบถาม เข้ามา ถึงวันที่จะมีการเปิดบ้าน และกิจกรรมที่จัดขึ้นที่บ้านของ อ.ปรีดี วันนี้ทางฝั่งผู้จัดได้ทำการแจ้งข่าวของวันที่จะจัดงาน ซึ่งมีสองวันดังนี้
วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม จะมีค่าร่วม อาหารและเครื่องดื่ม ท่านละ 17€ (ทำการจ่ายเงินที่หน้างานครับ) เป็นปิกนิคในสวนภายในบ้านครับ เราๆจะมีโอกาสได้พบบุคคลในครอบครัวของ อ.ปรีดี ที่มาร่วมงานครับ
และ วันเสาร์ที่ 18 วันนี้ไม่มี คชจ. ในการเข้าร่วมครับ จะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคุณ ธนาธร และ อ.ปิยบุตร และ มีกิจกรรมหัวข้อในการพูดคุยต่างๆครับ
-------------------
ส่วนตัวผมนั้นถือว่าเป็นวันที่สำคัญวันหนึ่ง เลยจะเข้าร่วมทั้ง สองวัน
และ เนื่องจากจะมี เพื่อนๆหลายๆท่าน ที่มาจากประเทศอื่นในยุโรป หลังเลิกงานทั้ง สองวัน ในคืนวัน ศุกร์ที่ 17 และ ช่วงเย็น วันที่ 18 ผมจะพาเที่ยวเดินชม หาของกิน และ หาร้านนั่งดื่มในปารีสกัน และสำหรับคนที่ยังไม่ได้กลับในวันอาทิตย์ที่ 19 เราอาจจะไปหา brunch นั่งทานกัน และ เดินเที่ยวชมปารีสแถบลุ่มแม่น้ำ Seine นั่งเรือ และหามุมถ่ายรูปกันครับ
ยังไงถ้าใครสนใจ จะมาเจอกันหลังช่วงงานก็ได้นะครับ เผื่อจะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ คนไทยและคนอื่นๆ ที่มาจากประเทศอื่นในยุโรปกันครับ
สำหรับคนที่สนใจ เข้าร่วมงาน วันที่ 17 หรือ 18 หรือทั้งสองวัน สามารถทำการกรอกลงทะเบียน ได้ตามแบบ ฟอร์มด้านล่างนี้นะครับ
สถานที่จัด ที่อยู่ บ้าน อ.ปรีดี
25 Av. Raymond Aron, 92160 Antony
(https://maps.app.goo.gl/rtSsmRaQnGY11Q3E7)
สถานี RER ฺB : Parc de Sceaux
หรือ รถเมล์สาย 197 จาก Porte d'Orléans ลงป้าย Normandie (20 นาที)
**********
เนื่องด้วยสถานที่ มีเนื้อที่จำกัด ทางผู้จัดอาจจะไม่สามารถรับผู้ลงทะเบียนได้หมดทุกท่านนะครับ มีคำถามสงสัยอะไร หรือ สนใจจะไปเที่ยวดื่มด้วยกัน ก็คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้นะครับ จะได้นัดไปเที่ยวปารีสด้วยกันครับ
ไว้เจอกันครับ
(https://form.jotform.com/241069114274452)
แอดมินป๊อป
ปล. ช่วยกันแชร์ด้วยนะครับ


https://www.facebook.com/photo?fbid=7350263218403626&set=gm.7601654206544231&idorvanity=148592841850442


เหตุผลที่บิ๊กโจ๊กโดนเล่นงาน

https://www.facebook.com/watch/?v=1512927052767627&t=0

เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
17h·

เหตุผลที่บิ๊กโจ๊กโดนเล่นงาน
----------------------------------
เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
เล่าข่าวเจาะประเด็นโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ / อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์
คุยข่าวได้ที่ Line : @insidethailand
ชมสด ฟังสด... FB Live : เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
วิทยุ : FM 102.0 MHz.
ทีวี : ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30
.....
ประเวศ ประภานุกูลกิจ
20h

ข่าวใหญ่สุดช่วงนี้คงไม่มีไรเกิน...โจ๊กหวานเจี๊ยบ
ต่อเรื่องนี้บอกก่อนว่าเป็น ความเห็นส่วนตัว
ยอมรับว่าตอนแรกก็มองไม่ออก เพิ่งได้คิดก็ตอนสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนี่แหละ....มันคือคำประกาศ "เชือดโจ๊ก"...โจ๊กแอนด์เดอะแก๊ง
ว่าที่จริงสัญญาณเชือดโจ๊กมาตั้งแต่ศาลออกหมายจับแล้ว
มีสองประเด็นที่สะกิดใจ....ทำไม และ ใครสั่ง
ตอนสั่งเข้ากรุ หลายคนอาจคิดว่า ทักษิณสั่ง ยิ่งโจ๊กเข้าพบทักษิณด้วยก็ยิ่งตอกย้ำ...ขอความช่วยเหลือ
แต่ ณ เวลานี้ สัญญาณที่ส่งออกมา ชัดเจนว่า เชือดโจ๊กคนเดียว(ต่อไม่เกี่ยว) ส่วนต่อก็ดองไว้ให้เกษียณสิ้นเดือนกันยายนแล้วค่อยหาที่ลงใหม่ให้
ความจริงเรื่องส่วยเว๊ปพนัน ก็มีเอี่ยวด้วยกันทั้งนั้น...
ทีนี้ถ้าดูย้อนหลังไปถึงตอนที่ต่อปาดหน้าเข้าวิน ผบ.ตร. นั่นมันตั๋วช้าง...ใหญ่เกินทักษิณ เผลอๆอาจเป็นคนเดียวกับที่ดิลกับทักษิณ
แล้วทำไมถึงเชือดโจ๊ก...คำตอบอยู่ที่การแสดงออกของโจ๊กเองที่วิ่งเข้าหานายใหญ่
คำตอบว่าทำไมจึงเป็นการ "ตัดขุมกำลัง" นายใหญ่ทักษิณ....ให้ทำงานตามดิลเท่านั้น ไม่ได้ผุดได้เกิด

เหตุใดโรงงานไฟฟ้าพลังงานน้ำ ไม่ใช่แหล่งพลังงานสะอาดอย่างที่คิด


เขื่อนสร้างพลังงานจำนวนมหาศาลจากการใช้น้ำหมุนใบพัดกังหัน แต่กลับพบว่ามีก๊าซมีเทนถูกปล่อยออกมาในขั้นตอนนี้

สตาร์ทอัพอังกฤษปิ๊งไอเดียดักจับก๊าซมีเทนที่ปล่อยจากแหล่งน้ำมาเป็นแหล่งพลังงานใหม่

แอนนา เทิร์นส์
ผู้สื่อข่าวสารคดี
17 เมษายน 2024
บีบีซีไทย

เขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั่วโลกเป็นแหล่งปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะนี้มีสตาร์ทอัพที่ต้องการดักจับก๊าซมีเทนเหล่านี้ เพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงาน

ณ เขื่อนทุคูรุย (Tucuruí) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศบราซิล มวลน้ำมหาศาลเทียบเท่าน้ำจาก 4 สระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ทำให้การสร้างกระแสพลังงานไฟฟ้าผ่านการหมุนของใบพัดกังหันน้ำใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งวินาที กระแสน้ำจากหนึ่งในอ่างเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอมะซอนส่งเสียงอึกทึกครึกโครม แต่นั่นเป็นสิ่งที่มาคู่กับการเป็นเขื่อนโรงไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก

ทว่า ขณะที่น้ำไหลผ่านกังหันทั้ง 25 ตัว รวมถึงทางน้ำล้นของตัวเขื่อน กลับพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น และนั่นคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

แม้ว่าเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำไฟฟ้าพลังงานน้ำมักถูกมองว่า เป็นหนึ่งในพลังงานหมุนเวียนที่มีรูปแบบเก่าแก่ที่สุดด้วยวิธีการปล่อยน้ำลงมายังกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า แต่กระบวนการนี้ก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกือบ 1 พันล้านตันสู่ชั้นบรรยากาศ (ซึ่งจำนวนมากของก๊าซเรือนกระจกถูกปล่อยออกมาในรูปของมีเทน) ขณะที่น้ำเข้าใกล้และผ่านกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

มีเทนคือก๊าซเรือนกระจกที่มีความรุนแรงมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80 เท่า ตลอดช่วงอายุ 20 ปี ของมัน ทว่ามันสลายตัวในชั้นบรรยากาศได้เร็วกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ด้วยเหตุนี้ ดูเหมือนว่าโรงงานไฟฟ้าพลังงานน้ำจะไม่ใช่แหล่งพลังงานสะอาดอย่างที่เราคิดกันในตอนแรกอีกต่อไป เพราะมีมลพิษซ่อนเร้นอยู่ในกระบวนการผลิต เหตุผลก็คือไม่ได้มีแค่น้ำที่ไหลผ่านตัวกังหันเท่านั้น แต่ยังมีก๊าซเรือนกระจกที่ละลายน้ำจำนวนมากไหลผ่านด้วย เช่นเดียวกับการที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายอยู่ในน้ำอัดลมมีลักษณะเป็นฟอง ก๊าซมีเทนที่อยู่ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ก็อยู่ในลักษณะเดียวกันภายใต้เงื่อนไขบางประการ

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังถือขวดน้ำอัดลม และก่อนเปิดขวด คุณจะไม่เห็นฟองอากาศที่อยู่ภายใน เพราะก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ยังคงละลายอยู่ในน้ำ แต่ทันทีที่เปิดฝาขวดออกมา คุณจะได้ยินเสียงฟองฟู่เนื่องจากความดันถูกปล่อยออกมาและดันฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ลอยขึ้น นอกจากนี้ การเขย่าขวดก่อนเปิดเพื่อสลายก๊าซที่อัดอยู่ภายใน ก็จะทำให้ขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมระเบิดได้ทุกเมื่อ

สิ่งที่คล้ายกันนี้สามารถเกิดขึ้นกับก๊าซมีเทนที่ละลายอยู่ในทะเลสาบ เมื่อกระแสน้ำเกิดความปั่นป่วน


แหล่งน้ำหลายชนิดสามารถปล่อยก๊าซมีเทนได้ รวมถึงแหล่งบำบัดน้ำเสีย

ทุก ๆ ปี จะมีก๊าซเรือนกระจกจำนวน 5.1 หมื่นล้านตันที่ถูกปล่อยเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ ในจำนวนนี้เป็นก๊าซมีเทนปริมาณกว่า 3 พันล้านตันที่หลุดรอดออกมาจากแหล่งน้ำ โดยพบว่าเมื่อน้ำถูกรบกวน ก๊าซมีเทนจะออกมาจากสารละลายและกลายเป็นฟองก๊าซ น่าประหลาดใจว่า หนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งก็คือเขื่อนทุคูรุย

แต่ตอนนี้มีความหวังว่า เราอาจดักจับก๊าซมีเทนก่อนที่จะมันจะลอยสู่ชั้นบรรยากาศ และนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานได้

รายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศซึ่งเป็นหน่วยงานภาคอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก ระบุว่า ภาวะโลกร้อนมีสาเหตุจากก๊าซมีเทนประมาณ 30% นับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ การควบคุมการปล่อยก๊าซมีเทนจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญสำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะสั้น

“หลังจากเวลาผ่านไป 12 ปี ก๊าซมีเทนจะ "ออกซิไดซ์" [รวมตัวกับก๊าซออกซิเจน] และกลายเป็นก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ ดังนั้น หากเราลดปริมาณก๊าซมีเทนในวันนี้ได้ เราก็จะสามารถลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนในช่วงชีวิตของเราได้” หลุยส์ พาร์ลอนส์ เบนตาตา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบลูมีเทน กล่าว

ปัจจุบันมี 150 ประเทศที่เข้าร่วมประกาศปฏิญญาสากลเพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทน (Global Methane Pledge) ซึ่งตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากกิจกรรมมนุษย์ให้ได้ 30% ในช่วงปี 2020-2030

แม้ว่าการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่พบว่าก๊าซมีเทนยังมาจากแหล่งอื่น ๆ ได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น 32% ของปริมาณก๊าซมีเทนที่ปล่อยออกมาจากการปศุสัตว์ ซึ่งเกิดจากการเรอหรือผายลมของสัตว์เคี้ยวเอื้องเช่นวัว

กรณีที่แหล่งน้ำเป็นส่วนหนึ่งของการปลดปล่อยมลพิษ ยังเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยรู้กันมากนัก โดยพบว่าตะกอนในแหล่งน้ำจืด เช่น แหล่งหนองน้ำในเขตร้อน ลุ่มพรุ รวมถึงดินน้ำขังปลอดออกซิเจน สามารถเป็นแหล่งผลิตก๊าซมีเทนได้ หากอินทรียวัตถุที่อุดมด้วยคาร์บอนถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในกรณีที่ไม่มีออกซิเจน ด้วยเหตุนี้มันจึงกลายเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจกอย่างมีเทน ซึ่งสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ หากถูกรบกวนด้วยการใช้ประโยชน์ที่ดินหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นอกจากนี้ยังพบว่า โรงบำบัดน้ำเสียและการทำนาก็เป็นอีกหนึ่งของต้นตอก๊าซมีแทนที่อยู่ในแหล่งน้ำฝีมือมนุษย์ ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียเข้าไปสลายอินทรียวัตถุและปล่อยก๊าซมีเทนออกมา

แน่นอนว่า อ่างเก็บน้ำและเขื่อนก็มีส่วนทำให้เกิดก๊าซมีเทนถึงปีละ 22 ล้านตันต่อปี แต่มันยังน้อยกว่าการปล่อยก๊าซมีเทนในนาข้าวและโรงบำบัดน้ำเสียถึง 2 ใน 3 ซึ่งปล่อยก๊าซมีเทนรวมกันกว่า 70 ล้านตันต่อปี โดยก๊าซมีเทนในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเกิดจากการย่อยสลายสารอินทรียวัตถุที่ตกตะกอนอยู่ด้านล่าง และหลุดรอดออกมาเมื่อนำน้ำขึ้นมาปั่นกระแสไฟ

โดยธรรมชาติแล้ว พื้นที่เปียกหลายแห่งอาจเป็นแหล่งกำเนิดก๊าซมีเทนที่เกิดขึ้นโดยแบคทีเรีย แต่ตราบใดที่ก๊าซชนิดนี้ยังละลายอยู่ในน้ำ มันจะยังไม่ทำหน้าที่เป็นก๊าซเรือนกระจก

แหล่งพลังงานที่มีศักยภาพ

ภายในภาชนะสีแดงสนิมความยาว 6 เมตรที่ มหาวิทยาลัยแครนฟีลด์ มีน้ำที่ไหลผ่านท่อและภาชนะต่าง ๆ ภายใต้แรงโน้มถ่วง ที่แห่งนี้ หลุยส์ พาร์ลอนส์ เบนตาตา ผู้บริหารบริษัทบลูมีเทน กำลังพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับก๊าซมีเทนจากแหล่งน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อ่างเก็บน้ำหรือโรงบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากก๊าซมีเทนเป็นองค์ประกอบหลักของก๊าซธรรมชาติที่มาจากแหล่งฟอสซิล ดังนั้น มันสามารถนำมาเป็นแหล่งพลังงานได้ หากนำมาเผา

พาร์ลอนส์ เบนตาตาหวังว่า เทคโนโลยีของเธอจะช่วยดักจับฟองก๊าซมีเทนขณะที่ลอยตัวขึ้นมาบนพื้นผิว และรวบรวมไว้ใช้เป็นแหล่งพลังงานก๊าซชีวภาพซึ่งไม่ได้มีแหล่งที่มาจากฟอสซิล

เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ของบลูมีเทนกำลังถูกทดสอบโดยบริษัทด้านน้ำทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหราชอาณาจักรซึ่งมีชื่อว่า ยูไนเต็ด ยูทิลิตี “บริษัทบำบัดน้ำเสียใช้การย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจนอยู่แล้ว โดยพวกเขานำขยะมูลฝอยมาปั่นในสภาพที่ไม่มีออกซิเจน เพื่อให้เกิดก๊าซมีเทน และในตอนท้ายมันจะได้ของเหลวที่ยังคงมีก๊าซมีเทนเจือปนอยู่ในนั้นค่อนข้างมาก” เธอกล่าว “พวกเขามีเครื่องกำเนิดก๊าซชีวภาพอยู่แล้ว และใช้มันเป็นพลังงาน ดังนั้น เราจึงไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรที่น่าทึ่งขนาดนั้น”

เทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรแบบแยกส่วนนี้ สามารถติดตั้งเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมได้อย่างง่าย ๆ ทำให้อุตสาหกรรมที่สร้างสารอินทรีย์ปริมาณมาก ๆ อย่างเช่น โรงบำบัดน้ำเสีย โรงเบียร์ และโรงผลิตเยื่อกระดาษ สามารถสร้างพลังงานได้จากภายในตัวโรงงานและลดการปล่อยมลพิษควบคู่กัน นอกจากนี้ เทคโนโลยีของพาร์ลอนส์ เบนตาตา และ เนสเตอร์ รูเอดา บาเยโค ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ยังลดการสูบน้ำได้ด้วย เพราะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแรงโน้มถ่วงแทน

“การออกแบบของเราให้ความสำคัญที่การใช้พลังงานต่ำ” พาร์ลอนส์ เบนตาตา บอก “เราต้องการกำจัดก๊าซมีเทนให้ได้มากที่สุด โดยใช้พลังงานน้อยที่สุด”

แม้ว่าบริษัทน้ำในสหราชอาณาจักรมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2030 นี้ แต่กลับไม่มีการวัดปริมาณก๊าซมีเทนที่ถูกปล่อยออกมาอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุนี้ พาร์ลอนส์ เบนตาตา จึงกำลังมองหาแหล่งทุนเพิ่มเติมสำหรับดาวเทียมแบบเปิด เพื่อวัดค่ามีเทนได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งเธอหวังว่ามันจะเอื้อให้เกิดการลงทุนสำหรับเทคโนโลยีกำจัดก๊าซมีเทนในระดับโลกมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะถึงแม้ว่า 1 ใน 3 ของปัจจัยที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนนั้นมาจากก๊าซมีเทน แต่ก๊าซมีเทนได้รับเงินทุนจากนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิกาศเพียง 2% เท่านั้น

ด้านแคโรล เฮลฟ์เตอร์ นักฟิสิกส์สิ่งแวดล้อมที่ศูนย์นิเวศวิทยาและอุทกวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้ศึกษาเรื่องการปล่อยก๊าซมีเทนจากแหล่งน้ำเปิด บอกว่า การปล่อยก๊าซมีเทนจากแหล่งน้ำยังไม่ได้รับการศึกษาเป็นพิเศษ แต่ช่องว่างของความรู้เรื่องนี้กำลังถูกเติมเต็ม

“เมื่อคุณดูงานวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ จะพบว่ามันมีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามา และเริ่มก่อตัวเป็นภาพอย่างช้า ๆ แต่จำนวนการปล่อยก๊าซมีเทนจากแหล่งน้ำนั้น ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก” เฮลฟ์เตอร์ กล่าว


เขื่อนทุคูรุยซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศบราซิล

ภาพที่เกิดขึ้นใหม่นี้กำลังชี้ให้เห็นว่า มีก๊าซมีเทนไหลออกจากก๊อกน้ำมากกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ โดยในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีงานศึกษาของมหาวิทยาพรินซ์ตันในสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า โรงบำบัดน้ำเสียแบบรวมศูนย์มีแนวโน้มปล่อยก๊าซมีเทนเป็นสองเท่า จากรายงานของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้

จากข้อมูลของเฮล์ฟเตอร์ผู้กำลังพยายามวัดการปล่อยก๊าซมีเทนจากแหล่งน้ำภายในสหราชอาณาจักรจำนวน 3 แห่ง พบว่าข้อมูลที่แม่นยำมากที่สุดนั้นมาจากการวัดค่าปล่อยมลพิษทางตรง โดยใช้เทคนิคทางอุตุนิยมวิทยาจุลภาค เช่น เทคนิคความแปรปรวนร่วมแบบหมุนวน (eddy covariance technic) ซึ่งคำนวณปริมาณก๊าซมีเทนที่ไหลออกจากน้ำสู่ชั้นบรรยากาศโดยตรง

แต่การสุ่มตัวอย่างเช่นนี้ไม่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่กว้าง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างแบบจำลองเชิงคณิตศาสตร์ขึ้นมา หากต้องการคาดการณ์จำนวนการปล่อยมลพิษในระดับภูมิภาคและระดับโลก การสังเกตการณ์ผ่านดาวเทียมตรวจจับมีเทนที่ทันสมัยสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ แต่ยังมีข้อท้าทายว่า การสังเกตการณ์ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวอาจถูกจำกัดพื้นที่ด้วยความถี่ของดาวเทียมที่เคลื่อนที่ผ่านบางภูมิภาคเท่านั้น หรืออาจถูกบดบัดด้วยเมฆ ซึ่งเป็นปัญหาของสหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศเขตร้อนส่วนใหญ่

นอกจากนี้ เฮล์ฟเตอร์ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า “เพียงเพราะมีมีเทนละลายอยู่ในน้ำ ไม่ได้หมายความว่ามันจะหลุดรอดไปยังชั้นบรรยากาศได้ เพราะมันยังอยู่ในสถานะสารละลาย” แต่เมื่อใดก็ตามที่เขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำเริ่มเดินเครื่องกังหัน มันจะทำให้เกิดฟองอากาศในน้ำ และปลดปล่อยก๊าซมีเทนออกมา

มีเทนคือเงิน เงิน และก็เงิน

“เราไม่ควรคิดแค่ว่า [ก๊าซมีเทนที่ละลายอยู่ในน้ำ] คือปัญหาใหญ่ แต่มันคือทรัพยากรแหล่งใหม่ต่างหาก” พาร์ลอนส์ เบนตาตา ผู้ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มจากก๊าซที่ถูกปล่อยทิ้ง บอกกับบีบีซี

เนื่องจากเขื่อนเป็นแหล่งก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ที่สุด รองลงมาจากแหล่งน้ำ นี่จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับบลูมีเทน ทีมงานของพวกเขาจึงกำลังตรวจวัดก๊าซมีเทนในเขื่อนพลังงานน้ำจำนวน 20 แห่ง ตั้งแต่บราซิลไปจนถึงแคเมอรูน เพื่อระบุจุดฮอตสปอต (hotspot) ที่อาจได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดักจับก๊าซมีเทน


ทะเลสาบคิวูเคยปลดปล่อยก๊าซจำนวนมหาศาลเป็นประวัติการณ์ และคุกคามความปลอดภัยของคนในท้องถิ่น

การสร้างรายได้จากการดักจับก๊าซมีเทนยังเป็นโอกาสสำคัญในหลายประเทศ เช่น บราซิล เนื่องจากเป็นประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนพลังงานน้ำเป็นหลัก ขณะนี้ ทางบลูมีเทนได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า โอเพนไฮโดร (Open Hydro) เพื่อช่วยคำนวณการปล่อยก๊าซมีเทนในเขื่อนทุคูรุยและลดคาร์บอนในระบบน้ำจืด

กรอบการทำงานใหม่ของพวกเขาคือ กลไกดักจับก๊าซมีเทนในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อผู้ประกอบการไฟฟ้าพลังงานน้ำในบราซิล นั่นหมายความว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำจะสามารถปลดล็อกศักยภาพการลงทุนและสร้างแรงจูงใจทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างเช่น ขายคาร์บอนเครดิตด้วยการดักจับก๊าซมีเทน โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากการซื้อเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ก๊าซมีเทนจำนวนมากติดอยู่ก้นทะเลสาบคิวูซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนประเทศรวันดาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

ทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่า “ทะเลสาบเพชฌฆาต” เนื่องจากมันเสี่ยงระเบิดก๊าซมีเทนออกมาจากกิจกรรมทางธรณีวิทยาใต้แผ่นเปลือกโลก โดยการปะทุลิมนิกหรือการพลิกกลับของทะเลสาบเช่นนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยาก มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อน้ำอิ่มตัวไปด้วยก๊าซที่ละลายในน้ำ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมีเทน ก่อนจะปลดปล่อยไอออกมา ส่งผลกระทบต่อประชากรที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ทะเลสาบ

มีบริษัทพลังงาน 5 แห่งได้พยายามสกัดก๊าซมีเทนจากทะเลสาบคิวูเพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงาน โดยในปี 2016 คิวูวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนได้นำก๊าซมีเทนมาใช้เป็นเชื้อเพลิง และเริ่มผลิตไฟฟ้าจำนวนมากขนาด 26 ล้านเมกะวัตต์ โดยนำก๊าซมีเทนจากทะเลสาบมาใช้

“เราไม่ใช่แค่บริษัทพลังงานสะอาดที่ทำงานอย่างรวดเร็วเท่านั้น เรากำลังปลดล็อกคุณค่าที่แท้จริงของทรัพยากรอันทรงคุณค่า” กล่าวโดย มารีอา อูบิเออร์นา ผู้ก่อตั้งโอเพนไฮโดร ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอ่างเก็บน้ำด้วย โดยเธอเชื่อว่าแนวทางนี้จะเร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานสีเขียวได้

เมื่อน้ำก๊าซมีเทนที่ออกมาจากน้ำได้แล้ว เราสามารถนำมันมาใช้เป็นก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตไฟฟ้า หรืออัปเกรดเป็นก๊าซธรรมชาติ “สีเขียว” ซึ่งสามารถนำไปใช้ให้ความร้อน สร้างกระแสไฟฟ้า และให้พลังงานกับยานพาหนะได้ อีกทางเลือกหนึ่งคือ ก๊าซมีเทนยังสามารถเปลี่ยนเป็นไฮโดรเจนหรือใช้เป็นเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า โดยในปัจจุบันไฮโดรเจนส่วนใหญ่ของโลกมาจากก๊าซมีเทน


เฮล์ฟเตอร์ค้นพบ “ความเข้มข้นของมีเทนที่สูงเป็นพิเศษ” ในทะเลสาบเปิดของเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้มาจากสิ่งปฏิกูลของประชากรนับล้านที่ยังไม่ผ่านกระบวนการบำบัดของเสีย

การใช้ก๊าซมีเทนจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ เช่น การเผาหรือแปลงมันเป็นไฮโดรเจน ยังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ แต่ไม่มากไปกว่าก๊าซที่ถูกปล่อยจากอินทรียวัตถุที่สลายตัวอยู่ด้านล่างของอ่างเก็บน้ำ

แม้ว่าการดักจับก๊าซมีเทนจากทะเลสาบคิวูของแอฟริกาเป็นตัวอย่างที่สุดโต่ง แต่เฮลฟ์เตอร์มองว่านี่คือศักยภาพอันมหาศาลสำหรับเทคโนโลยีของบลูมีเทน ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในประเทศกำลังพัฒนา ล่าสุดเธอยังค้นพบ “ความเข้มข้นของมีเทนที่สูงเป็นพิเศษ” ในทะเลสาบเปิดของเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้มาจากสิ่งปฏิกูลของประชากรนับล้านที่ยังไม่ผ่านกระบวนการบำบัดของเสีย

แม้ว่าสิ่งนี้จะฟังดูแล้วไม่ปกติ แต่มันควรเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่ง โดยเฮลฟ์เตอร์บอกว่า “มันกำลังส่งสัญญาณเตือนว่า หนึ่งในทะเลสาบเหล่านี้ ผลิตก๊าซมีเทนมากจนบางครั้งก็ทำให้มันติดไฟ แต่ในสถานที่เช่นนี้ หากคุณสามารถเก็บเกี่ยวตักตวงก๊าซมีเทนปริมาณมากเหล่านี้ได้ คุณจะสามารถผลิตพลังงานและลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้ได้ด้วย”

เนื่องจากเธอกังวลว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำเสียในอินเดียและแอฟริกานั้น “อาจเติบโตไม่ทันเท่ากับความเจริญของเมือง” ส่งผลให้การปล่อยก๊าซมีเทนอาจสร้างปัญหามากขึ้นในอนาคต หากได้รับการจัดการที่ไม่เหมาะสม

https://www.bbc.com/thai/articles/cg67qxq0lldo

ถ้าเปลี่ยนวิชาประวัติศาสตร์ เป็นชื่ออื่นได้ ท่านว่า ควรชื่อวิชาอะไรดี "รักชาติ" "ดักดาน" หรือ ?


.....
วิวาทะ V2
1d ·
 


Panu Trivej
1d·

ถ้าสงสัยจริงๆ คำตอบง่ายมากเลย
"คนเราควรจะรักบ้านเกิดเมืองนอนด้วยเหตุผลที่ตนเลือกเอง ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่คนอื่นอยากให้เรารัก"
ความงี่เง่าของฝ่ายขวาชาตินิยมคือ อยาก -- และบังคับ -- ให้คนรักชาติด้วยเหตุผลจำเพาะเจาะจง ด้วยเหตุผลเดียวกันหมด


นักวิชาการชอบส้ม "เขาก็เปิดเผยกันมานานแล้วนะ ไม่เห็นมีใครแอบ" อ.พวงทอง ภวัครพันธุ์ บอก

https://www.facebook.com/puangthong.r.pawakapan/posts/pfbid037GFDCZ9SDNiWpy18DTT8oVe46W5iZYx4dx2f7345QnMqPMUofX9dRDBTa8s5nJw8l?ref=embed_post


“โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ มอง“ก้าวไกล” วันที่โดนยุบ

https://www.facebook.com/678858964/videos/1072961633804189/?t=0

Jom Petchpradab was live.
7h·

“โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ มอง“ก้าวไกล” วันที่โดนยุบ
และท่าทีจากความผิดหวังของมวลชนบางกลุ่ม
อีกทั้งความเสี่ยงที่อาจกลับเข้าคุกอีกครั้งด้วยคดี 112

ปิยะรัฐ จงเทพ ส.ส. เขตพระโขนง-บางนา พรรคก้าวไกล อดีตแกนนำประชาชนต่อสู้กับเผด็จการคสช. กับ บทบาท ส.ส.และประธานคณะอนุกรรมาธิการปฎิรูประบบตำรวจ และกรรมาธิการในอีกหลายชุด ประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองอาจจะกลับเข้าคุกเพราะคดี 112 ก่อนทีพรรคก้าวไกลจะถูกยุบ โดยประเมินว่าแม้พรรคก้าวไกลจะถูกยุบแน่แต่การสู้กับคดีทางการเมืองที่ตัวเองมีเหลืออยู่ตอนนี้ 16 คดี โดยเฉพาะคดี 112 จำนวน 3 คดีนั้น แม้จะมีช่องทางสู้ได้แต่ก็ยังมั่นใจ และยืนยันว่า แม้จะมีคนสงสัยว่าอาจจะกลายเป็นงูเห่า ไปอยู่ฝั่งผู้มีอำนาจเพื่อจะได้ช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากคดี 112 ก่อนที่พรรคก้าวไกลจะถูกยุบ เขายืนยันว่าจะไม่ยอมเห็นแก่กล้วยเพียงต่อให้เป็น 20 หรือ 30 กิโลก็ตาม เพราะต้นทุนและมูลค่าที่ตัวเองทำไว้และต่อสู้มาไม่อาจจะประเมินเป็นตัวเงินได้ ส่วนว่าจะเหลือ สมาชิกก้าวไกลที่จะนำพรรคไปต่อซึ่งส่วนมากไม่เหลืออดีตนักสู้ต่อร่วมกับประชาชนมาก่อน จะมีอุดมการณ์ที่เข้มแข็ง กล้าหาญมากพอหรือไม่ในการรักษาต่อสู้ทางการเมืองบนความกล้าหาญที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปสู่อุดมการณ์การเมืองใหม่ เหมือนที่พรรคก้าวไกล ได้หว่านเพาะเมล็ดพันธุ์เอาไว้
คำตอบและการวิเคราะห์ในประเด็นเหล่านี้และอีกหลายๆ ประเด็น ที่เกี่ยวกับตัวตนของนักต่อสู้ทางการเมืองคนนี้ จะเป็นอย่างไร


ห่วงใย "ตะวัน" และเพื่อนเราทุกคน ( จาก ฟ.บ. Mon Mon ) เมื่อวานเห็น "ตะวัน" ผ่านวีดีโอคอลที่ศาลอาญารัชดา สูบผอมจนน่ากลัว


Suchart Sawadsri
14h
·
ด้วยความห่วงใย "ตะวัน" และเพื่อนเราทุกคน
( จาก ฟ.บ. Mon Mon )
เมื่อวานเห็น "ตะวัน" ผ่านวีดีโอคอลที่ศาลอาญารัชดา สูบผอมจนน่ากลัว เวลาพูดก็มีอาการเหนื่อย ไม่มีแรง นั่งบนเก้าอี้ก็ต้องเอาหัวพิงข้างฝาพนังไว้เพราะนั่งเองไม่ได้ มือที่ถือยาดมและดมอยู่ตลอดเวลาที่คุยกับศาล นิ้วมือของ "ตะวัน" แต่ละนิ้วมันมีแต่หนังหุ้มกระดูกอย่างเห็นได้ชัด ไหปลาร้าก็ลึกโบ๋ เห็นแล้วเรารู้สึกเป็นห่วงและส่งสาร "ตะวัน" มาก ทุกคนที่อยู่เมื่อวานคงไม่ต้องบอกว่าน้ำตาซึมกันทุกคน เพราะมันจุกอยู่ในอก อยากให้น้องตะวันได้รับการประกันตัวโดยเร็ววัน ไม่ยังนั้นน้องตะวันคงจะไม่รอดแน่ๆ
-------
#savetantawanandfriend
ภาพลายเส้น : งานสร้างจาก ฟ.บ.ศิลปะนานาพันธ์ุ
.....


รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ประสานเสียงโต้ 'ชัยวัฒน์' ปมกล่าวหานักการเผาป่าเอาผลงาน จวก อย่าผูกขาดรักป่าคนเดียว ใช้แต่อคติ ความรู้สึก รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง เพราะแบบนี้ถึงแก้ปัญหาไฟป่าไม่ได้

https://www.youtube.com/watch?v=Flq07rLhLBk

รบ.-ฝ่ายค้าน รุมโต้ 'ชัยวัฒน์' ปมกล่าวหานักการเผาป่า ซัด รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

3PlusNews

Apr 19, 2024 

รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ประสานเสียงโต้ 'ชัยวัฒน์' ปมกล่าวหานักการเผาป่าเอาผลงาน จวก อย่าผูกขาดรักป่าคนเดียว ใช้แต่อคติ ความรู้สึก รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง เพราะแบบนี้ถึงแก้ปัญหาไฟป่าไม่ได้ จากกรณีที่คุณชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สื่อสารในช่องทางออนไลน์ส่วนตัวและให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนในลักษณะที่ทำให้สังคมเชื่อว่าพรรคการเมืองและนักการเมือง รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาป่า ทำให้เกิดฝุ่นพิษเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
 
ล่าสุดเรื่องนี้ก็มีฏิกิริยาจากฝ่ายการเมืองออกมา โดยคุณสมคิด เชื้อคง ออกมาโต้ "คุณชัยวัฒน์" ว่าอย่ากล่าวหาลอยๆ และจี้ให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ต้องตรวจสอบ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
 
คุณสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตอบโต้ คุณชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชออกมาโพสต์คลิป แฉนักการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาป่า เพื่อจะเอาผลงาน ว่า คิดแบบนี้ได้อย่างไร ยืนยันไม่มีหรอกนักการเมือง ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน จะไปเผาป่าเพื่อเอาผลงาน เพราะเหตุผลมันตื้นมาก
 
ก็บอกว่า ที่คุณชัยวัฒน์ ออกมาระบุว่า ป่าแห้งเผาง่าย ป่าชื้นยังไปเผาอีก จึงถามกลับว่า ถ้ารู้ขนาดนั้น ทำไมไม่ไปป้องกัน เพราะเป็นหน้าที่ ซึ่งหากคุณชัยวัฒน์ อยากได้ชื่อเสียง อยากได้ข่าว เขาได้ข่าวอยู่แล้ว แต่อย่าไปใส่ร้ายฝ่ายอื่น ช่วยกันทำงานดีกว่า พร้อมท้าว่า "หากมีหลักฐานให้ส่งมา รัฐบาลนี้พร้อมดำเนินการ ไม่ไว้หน้าใคร"
 
ทั้งนี้คุณสมคิด ฝากถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าการให้ข้าราชการประจำมากล่าวหาลอยๆเช่นนี้ไม่เหมาะสม และต้องไปตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นต่อไปนี้ใครจะพูดอะไรก็ได้

คุณสมคิด บอกถึงคุณชัยวัฒน์ ว่า "ต้องระวังสิ่งที่ตัวเองพูด อย่ารักป่าคนเดียว อย่ารักต้นน้ำลำธารคนเดียว คนอื่นเขาก็รักเหมือนกัน อย่าอวดว่าตัวเองเสียสละคนอื่นเขาก็เสียสละ"
.....

พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
12h·

จากกรณีที่คุณชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สื่อสารในช่องทางออนไลน์ส่วนตัวและให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนในลักษณะที่ทำให้สังคมเชื่อว่าพรรคการเมืองและนักการเมือง รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาป่า ทำให้เกิดฝุ่นพิษเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
.
พรรคก้าวไกลขอชี้แจงว่า:
.
1.ข้อกล่าวหาดังกล่าว ถือเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลหลักฐาน พรรคก้าวไกลขอให้นำมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมาย และตามแนวนโยบายของรัฐบาล
.
แต่หากไม่มีข้อมูลหลักฐาน พรรคก้าวไกลถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง
.
2.ภารกิจหลักในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและหน่วยงานราชการ ส่วนพรรคก้าวไกล ภาคประชาสังคม ร่วมทั้งอาสาสมัครประชาชน ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเครื่องมืออุปกรณ์ กำลังคน อาสาสมัคร การเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดนนโยบายที่เหมาะสมที่สุด ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
.
3.พรรคก้าวไกลยังมีแนวนโยบายและการทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติอีกจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษระยะยาวอย่างยั่งยืน
.
สุดท้าย ขอย้ำเตือนไปยังคุณชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ว่ากรุณาเปิดใจให้กว้าง อย่าผูกขาดความรักป่าไว้เพียงคนเดียว มิเช่นนั้นแล้ว จะนำมาสู่ความคิดที่ว่าตนเองดีและสูงส่งกว่าคนอื่นๆ ซึ่งอาจนำมาสู่การปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจเกินขอบเขตและไม่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชน อย่างที่คุณชัยวัฒน์เคยถูกกล่าวหามาแล้วหลายครั้ง
.
#ก้าวไกล #ชัยวัฒน์ #บิลลี่ #บางกลอย #ไฟป่า #ฝุ่นPM25


"ผีฮ่องกง" อีกเวอร์ชั่น


คนกลมคนเหลี่ยม
Yesterday ·

"ผีฮ่องกง" ขอกำลังใจสนับสนุนผลงานการ์ตูนหรือช่วยเหลือแอดมินจากคดี ม.112 ด้วยนะครับที่กสิกร 3592203015 กราบขอบพระคุณครับ

https://www.facebook.com/photo/?fbid=761097696162406&set=a.368277725444407


ฟัง “วันนอร์” ตอบชัด รับไม่ได้ หลังมีสัญญาณเปลี่ยนประธานสภา ลั่นหากทำงานไม่ได้ เดี๋ยวไปเอง!!! ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง วอนอย่าใช้ตำแหน่งนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง


หากทำงานไม่ได้ เดี๋ยว "วันนอร์" ไปเอง!!! | NewsFeed

Nation STORY

9 hours ago

https://www.youtube.com/watch?v=TA3qI7BJag0






 

เพจนี้ ฟาดแรงจัง






กลยุทธ์ ชิงพื้นที่ ข่าว และ พื้นที่จริง วันสงกรานต์ เหตุใดฝ่ายรัฐบาลที่ควรเป็นต่อ แต่ถูก ฝ่ายค้าน ช่วงชิง


ภาพจาก มติชนออนไลน์

ปิยบุตรชวนคิด "นัยยะทางการเมืองในสงกรานต์ SoftPower" #ปิยบุตรทัวร์ EP20

Friends Talk

Streamed 2 days ago
.....
Piyabutr Saengkanokkul @Piyabutr_FWP

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่าน เราได้เห็นภาพ ส.ส. ของพรรคก้าวไกลไปร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ 

การเล่นน้ำสงกรานต์กับประชาชนของนักการเมืองที่เริ่มมีให้เห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่มีแต่การเปิดบ้านให้รดน้ำดำหัว "ผู้ใหญ่" เพื่อแสดงบารมีทางการเมือง มาเป็นการเข้าถึงประชาชนในฐานะคนธรรมดาที่เป็นผู้แทนราษฎร ไม่ใช้เจ้านายของประชาชน

https://www.youtube.com/watch?v=ReuaNcEe2Gk